การปลูกผม (Hair transplantation) เป็นกระบวนการเครื่องมือการแพทย์ที่ใช้วิธีการย้ายรากผมจากบริเวณหนึ่งของศีรษะไปปลูกเอาไว้ภายในรอบๆที่อยาก ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาผมหล่นหรือศีรษะบางในเพศชายรวมทั้งเพศหญิง
(https://i.imgur.com/0Dpj58Y.png)
สามารถอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> การปลูกผม https://www.bhiclinic.com/services/hair-transplantation (https://www.bhiclinic.com/services/hair-transplantation/)
จำพวกของการปลูกผม (https://www.bhiclinic.com/services/hair-transplantation/)มีดังนี้
การปลูกผมด้วยเคล็ดลับ FUE (Follicular Unit Extraction)
เป็นวิธีการปลูกผมที่ใช้การเอาเฉพาะรากผมจากข้างหน้าของหัวเพื่อปลูกผมใหม่ในส่วนที่เป็นขยายหรือหล่น กรรมวิธีการนี้มีจุดแข็งคือคนเจ็บไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะเข่า เวลาฟื้นตัวก็จะเร็วขึ้น และไม่มีรอยคราบเลือดออก นอกนั้น ผู้เจ็บป่วยยังสามารถเลือกปริมาณผมที่ต้องการปลูกได้อย่างแม่นยำ
การปลูกผมด้วยเคล็ดวิธี FUT (Follicular Unit Transplantation)
เป็นวิธีการปลูกผมที่ใช้การเอาเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังหัว รวมทั้งตัดเป็นก้อนเล็กๆเพื่อนำมาปลูกภายในส่วนที่อยาก เวลาฟื้นจะช้ากว่า FUE แต่ว่าจะให้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวรและก็คุณภาพดีกว่า กรรมวิธีนี้มักจะใช้สำหรับคนไข้ที่จำเป็นต้องการปลูกผมในพื้นที่กว้างๆ
การปลูกผมด้วยการใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการอื่นๆเป็นต้นว่า PRP (Platelet Rich Plasma), หรือ LLLT (Low-Level Laser Therapy)
เป็นกรรมวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกผม อาจไม่ได้เป็นแนวทางการปลูกผมโดยตรง แต่จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของรากผมรวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเจริญเติบโตของผม วิธี PRP เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยมาแยกเอาเซลล์เลือดแดงและแยกเอาแผ่นข้างบนที่มีแพลตเล็ตประเภทหนึ่งที่เรียกว่า PRP มาใช้เป็นการสร้างเสริมรากผม ส่วน LLLT คือการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความถี่ต่ำเพื่อกระตุ้นเซลล์ผมให้เจริญเติบโตแข็งแรงขึ้น
สำหรับประเภทของผู้ที่เหมาะสมในการปลูกผม จะขึ้นกับปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น อายุ ระดับของปัญหาผมที่มี เป็นต้นว่า ระดับการผมตก ฯลฯ อย่างไรก็แล้วแต่ โดยมากแล้วคนที่มีปัญหาผมหล่นและอายุเกิน 30 ปีขึ้นไปจะเหมาะสมกับกระบวนการทำการปลูกผม แม้กระนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมหล่นระดับบางส่วนรวมทั้งอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 30 ปีบางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องทำการปลูกผมในทันที แต่บางทีอาจจะใช้วิธีการสร้างเสริมรากผมเพื่อช่วยคุ้มครองการผมร่วงเพิ่ม
ยิ่งไปกว่านี้ยังจะต้องไตร่ตรองต้นเหตุอื่นๆดังเช่นว่า เรื่องราวป่วย แล้วก็ยาที่กินอยู่ รายละเอียดประเมินความเหมาะสมของการปลูกผมในแต่ละบุคคล อย่างไรก็แล้วแต่ การเลือกที่จะปลูกผมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการรวมทั้งสิ่งที่สำคัญกับแต่ละบุคคลเอง เพราะฉะนั้นควรจะพินิจอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำการตัดสินใจทำการปลูกผม โดยควรหารือแพทย์หรือผู้ที่มีความชำนาญด้านผมก่อนเพื่อขอคำปรึกษาและก็ข้อแนะนำเสริมเติมก่อนที่จะดำเนินงานถัดไป
การปลูกผมที่ได้รับความนิยมในไทย
ในตอนนี้ แนวทางการปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย โดยเป็นการปลูกผมโดยใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อเอาเส้นผมแต่ละเส้นออกมาจากหนังศีรษะ หลังจากนั้นนำเส้นผมที่ถูกเอาออกมาไปปลูกเอาไว้ในรอบๆที่ปรารถนา แนวทางนี้ไม่ต้องตัดแถบผิวหนังออกราว FUT และไม่กำเนิดแผลแล้วก็รอยเปิดผิวหนัง ซึ่งทำให้มีคุณภาพและก็ประสิทธิผลสูง รวมทั้งมีอัตราการบรรลุเป้าหมายสูงยิ่งกว่าวิธีอื่นๆในการปลูกผมด้วยกันในประเทศไทย นอกเหนือจากนั้น FUE ยังไม่ได้อยากต้องการเวลาหายตัวแล้วก็ฟื้นนานเท่ากับแนวทาง FUT ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ที่จำต้องการปลูกผมแม้กระนั้นไม่ต้องการให้ผลพวงต่อการทำงานหรือกิจกรรมในชีวิตประจำวันของตน
วิธีการปลูกผมแบบ FUE ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง
เนื่องจากว่ามีข้อดีต่อผู้ประสบปัญหาผมร่วง ซึ่งตัวต้นเหตุของปัญหานี้อาจมาจากกรรมพันธุ์ หรือสาเหตุจากการผ่าตัด การดูแลรักษาโรค การดูแลและรักษาความตึงเครียด หรือการใช้สารเคมีที่ไม่เหมาะสมกับเส้นผม เป็นต้น โดยเหตุนี้ผู้ที่จำต้องการปลูกผมแบบ FUE จะได้รับประโยชน์ดังนี้
1.ผลการปลูกผมด้วยแนวทาง FUE มีคุณภาพรวมทั้งประสิทธิภาพสูง โดยมีอัตราการบรรลุผลสูงมากเกินกว่า 95%
2.ไม่ต้องทำตัดแถบผิวหนังรวมทั้งเปิดผิวหนัง ทำให้ไม่มีรอยแผลหรือรอยเปิดผิวหนังที่จะนำไปสู่แผลอักเสบหรือหยุดการทำงานของผู้ประสบเจอกับปัญหาผมหล่น
3.ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหายตัวรวมทั้งฟื้นนาน ผู้ประสบเจอกับปัญหาผมหล่นสามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมทุกวันได้โดยทันที
4.ผลการปลูกผมด้วยแนวทาง FUE มีความธรรมชาติและดังเส้นผมธรรมชาติ ทำให้ผมที่ปลูกมาอาจเลียนแบบเส้นผมธรรมชาติได้
5.การปลูกผมด้วยแนวทาง FUE มีคุณภาพสูงและมีคุณภาพที่ดี เพราะว่ากรรมวิธีการนี้ใช้วัสดุอันทรงพลังที่มีความละเอียดสูงสำหรับการแบ่งชนิดของหน่วยผมที่จะถูกเอามาปลูก แล้วก็มีการเลือกเก็บเฉพาะหน่วยผมที่มีคุณภาพดีเพื่อนำไปปลูกไว้ในบริเวณที่ผมตก ทำให้ผมที่ปลูกมีความหนาแน่น และเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
6.ผู้เผชิญปัญหาผมหล่นสามารถปรับแต่งแบบการปลูกผมได้ตามอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผมรอบๆหน้าผาก หรือแก้ม หรือปลูกผมรอบๆจมูก รวมทั้งอื่นๆตามต้องการ
7.ไม่มีการตัดเล็บนิ้วเท้าแล้วก็นิ้วมือ เพื่อเอาเนื้อผิวหนังไปใช้ทำการปลูกผม เพราะว่าวิธีการปลูกผมแบบ FUE ใช้เครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่มีความละเอียดสูง ทำให้การรักษาข้างหลังปลูกผมง่ายและไม่ซับซ้อน
8.มีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำยุคและก็มีความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงของการได้รับเชื้อและการแพร่โรคติดเชื้อ
9.การปลูกผมแบบ FUE เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการปลูกผม เป็นต้นว่า โรคภูมิแพ้ หรือโรคซึมเศร้า ทำให้ผู้เผชิญกับปัญหาผมหล่นสามารถทำการปลูกผมได้อย่างปลอดภัย
โดยเหตุนั้น การปลูกผมแบบ FUE มีความนิยมมากมายในไทยเพราะเป็นวิธีการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูงรวมทั้งมีคุณภาพที่ดี นอกเหนือจากนั้น ยังไม่เป็นผลข้างเคียงที่สำคัญที่จะมีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ประสบพบปัญหาผมตกด้วย
(https://i.imgur.com/YDv74m1.png)
แหล่งที่มา บทความ การปลูกผม https://www.bhiclinic.com/services/hair-transplantation (https://www.bhiclinic.com/services/hair-transplantation/)