ซึ่งถ้าเกิดสะสมมากกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ จะนับว่าเป็นภาวะไขมันพอกตับ ทำให้ตับเกิดการอักเสบ หรือเซลล์ตับตาย แล้วก็เกิดพังผืดภายในตับ จนกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด ซึ่งถ้าหากอาการของโรคดำเนินไปจนกระทั่งภาวะตับแข็ง จะไม่อาจจะรักษาได้ด้วยยาหรือวิธีทางการแพทย์อะไรก็ตามทำเป็นเพียงแต่ควบคุมอาการรวมทั้งลดปริมาณไขมันในตับลงโดยการรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น (https://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2021/03/9-2.webp)
ลักษณะของไขมันพอกตับ (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/fatty_liver) จะไม่ชี้ให้เห็นตั้งแต่เริ่มแรก แต่จะเริ่มมีลักษณะอาการที่ได้ผลพวงจากการที่ไขมันสะสมอยู่ในตับหลายชิ้น โดยอาการที่พบได้มากหมายถึงอิดโรย เหน็ดเหนื่อย ไม่มีแรง รู้สึกป่วยท้องน้ำหนักลดแตกต่างจากปกติ ความต้องการของกินลดลง คลื่นไส้ ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการตกลงใจและก็สมาธิลดน้อยลง นอกนั้น โรคไขมันพอกตับอาจจะทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้ เช่น ตับโต กำเนิดลักษณะของการปวดที่รอบๆท้องข้างบนขวา หรือกึ่งกลางท้อง แล้วก็บางทีอาจเจอรอยปื้นคล้ำที่ผิวหนังรอบๆ คอ หรือใต้จั๊กกะแร้ เป็นต้น
ต้นเหตุที่ก่อกำเนิดภาวการณ์ไขมันพอกตับ เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ร่างกายสะสมไขมันมากจนเกินไป หรือกำเนิดความเปลี่ยนไปจากปกติเกี่ยวกับระบบสลายไขมัน ดังนี้ไขมันที่ไปแทรกตามเซลล์ตับบางทีอาจไม่ได้มีสาเหตุจากการทานอาหารที่มีไขมันสูงโดยตรง แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะปัจจัยอื่นๆตัวอย่างเช่น การดื่มแอลกอฮอล์ เบาหวาน โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง ความไม่ดีเหมือนปกติของลำไส้ในการซึมซับสารอาหาร โรคไวรัสตับอักเสบบีรวมทั้งซี หรือการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV) เป็นต้น
ไขมันพอกตับเป็นภาวะสุขภาพซึ่งสามารถเลี่ยงได้ ถ้ามีการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายที่ดีพอ และก็เลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ดังเช่นว่า ผัก ผลไม้ ธัญพืชจำพวกต่างๆหลบหลีกของกินไขมันสูง เปลี่ยนมารับประทานของกินที่มีไขมันดี เป็นต้นว่า ถั่วเปลือกแข็ง อะโวคาโด ปลาทะเล ฯลฯ อย่างไรก็ดี การดูแลและรักษาภาวการณ์ไขมันพอกตับควรจะเน้นไปที่การหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและปรับเปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติการใช้ชีวิต ซึ่งคนเจ็บควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- เลือกกินอาหารที่มีคุณประโยชน์ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เลี่ยงของกินที่มีไขมันสูงรวมทั้งของกินที่มีรสเค็มจัด นอกจากนั้นควรกินผักและกินผลไม้ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะก่อให้อาการโดยรวมต่างๆของภาวะไขมันพอกตับดีขึ้น รวมทั้งช่วยทำให้ความไวต่ออินซูลินของร่างกายดียิ่งขึ้นด้วย
- การควบคุมน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ รวมทั้งควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม