Topic No.✅ B83F7 จำพวกของรากฐานลึก: การเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับโครงงานก่อสร้าง

[deam205]

รากฐานลึก (Deep Foundation) เป็นโครงสร้างสำคัญในงานวิศวกรรมที่ช่วยเสริมความมั่นคงของส่วนประกอบในพื้นที่ที่ชั้นดินด้านบนไม่แข็งแรงพอเพียงสำหรับรองรับน้ำหนักทั้งผอง โครงสร้างรองรับลึกมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณลักษณะ ข้อดี แล้วก็ข้อจำกัดเฉพาะตัว การเลือกโครงสร้างรองรับลึกที่เหมาะสมกับโครงการก่อสร้างก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสมรรถนะของโครงสร้าง บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับประเภทของรากฐานลึก พร้อมขั้นตอนการเลือกใช้งานในโครงการก่อสร้างที่แตกต่างกัน

🎯🥇✅โครงสร้างรองรับลึกเป็นยังไง?

รากฐานลึกเป็นส่วนขององค์ประกอบที่ถ่ายโอนน้ำหนักของตึกหรือสิ่งก่อสร้างลงไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงเพียงพอ โดยอยู่ลึกกว่าฐานรากตื้น (Shallow Foundation) ฐานรากลึกเหมาะกับแผนการที่อยากรองรับน้ำหนักมาก หรือในพื้นที่ที่ชั้นดินข้างบนอ่อนตัว ดังเช่น ดินเลน ดินทรายหลวม หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ

✅✨⚡ประเภทของรากฐานลึก

โครงสร้างรองรับลึกสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการก่อสร้างและการถ่ายโอนน้ำหนัก โดยประเภทที่มักพบในงานวิศวกรรม ยกตัวอย่างเช่น:

-------------------------------------------------------------
นำเสนอบริการ Soil Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท เจาะสํารวจดิน บริการ เจาะสํารวจดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

1. เสาเข็ม (Pile Foundation)
เสาเข็มเป็นโครงสร้างรองรับลึกที่ใช้กันอย่างล้นหลาม โดยมีลักษณะเป็นเสาที่ตอกหรือเจาะลงไปในดินเพื่อถ่ายโอนน้ำหนักของโครงสร้างลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง เสาเข็มแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

เสาเข็มตอก (Driven Piles):
ติดตั้งโดยการตอกเสาเข็มลงไปในดิน เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความรวดเร็วแล้วก็ลดเงินลงทุน แต่การตอกเสาเข็มอาจจะก่อให้เกิดแรงสะเทือนต่อตึกใกล้เคียง
เสาเข็มเจาะ (Bored Piles):
จัดตั้งโดยการขุดหรือเจาะหลุมแล้วใส่คอนกรีตเสริมเหล็กลงไป เหมาะกับพื้นที่ที่ปรารถนาลดผลพวงจากแรงสะเทือน ตัวอย่างเช่น ใกล้กับตึกที่มีส่วนประกอบอ่อนไหว

2. ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft Foundation)
ฐานเข็มเจาะ หรือที่เรียกว่า Caisson เป็นโครงสร้างรองรับลึกที่ติดตั้งโดยการเจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในดินหรือหิน แล้วใส่คอนกรีตลงไปเพื่อสร้างโครงสร้างรองรับ แนวทางนี้เหมาะกับโครงงานที่จะต้องรองรับน้ำหนักมาก เช่น สะพาน หรืออาคารสูง โดยมีข้อดีก็คือความแข็งแรงแล้วก็ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการรับน้ำหนักที่สูง

3. รากฐานแบบเสาเข็มรวม (Pile Group Foundation)
ในบางโครงงานบางทีอาจจำต้องใช้เสาเข็มหลายต้นรวมกันเป็นกรุ๊ป เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก โดยรากฐานแบบนี้มักใช้ในโครงสร้างที่มีน้ำหนักกระจายตัว ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม หรือส่วนประกอบสะพาน

4. โครงสร้างรองรับลึกชนิดฝัง (Embedded Foundation)
โครงสร้างรองรับประเภทนี้ถูกฝังไว้ใต้ดินรวมทั้งเชื่อมโยงกับองค์ประกอบข้างบน เหมาะสำหรับโครงงานก่อสร้างในพื้นที่ที่อยากได้ลดผลกระทบจากการขับเคลื่อนของดิน เช่น ตึกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลาดชัน

5. ฐานรากลึกพิเศษ (Specialized Deep Foundations)
บ้างครั้งที่ส่วนประกอบมีความสลับซับซ้อน เช่น ในพื้นที่แผ่นดินไหวหรือในสมุทร โครงสร้างรองรับลึกพิเศษ อาทิเช่น เสาเข็มแบบคอนกรีตอัดแรงหรือรากฐานแบบใต้สมุทร จะถูกประยุกต์ใช้งาน

✨📌⚡การเลือกฐานรากลึกให้เหมาะสม

การเลือกฐานรากลึกที่เหมาะสมกับโครงการก่อสร้างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่างเช่น:

1. สภาพดินในพื้นที่
การสำรวจชั้นดินในพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยทำให้รู้ถึงคุณสมบัติของดิน ดังเช่นว่า ความแข็งแรง ความลึกของชั้นดินแข็ง และระดับน้ำใต้ดิน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดประเภทรากฐานที่เหมาะสม

2. รูปแบบของส่วนประกอบ
น้ำหนักรวมทั้งลักษณะขององค์ประกอบ อย่างเช่น อาคารสูง สะพาน หรือส่วนประกอบใต้น้ำ จะมีผลต่อการเลือกโครงสร้างรองรับลึก หากโครงสร้างมีน้ำหนักมาก จำเป็นที่จะต้องใช้ฐานรากที่สามารถรองรับน้ำหนักก้าวหน้า ดังเช่น ฐานเข็มเจาะหรือรากฐานแบบเสาเข็มรวม

3. ความจำกัดทางด้านกายภาพ
ในพื้นที่ที่มีข้อกำหนด เป็นต้นว่า พื้นที่แคบ หรือใกล้กับตึกอื่น ฐานรากแบบเสาเข็มเจาะจะสมควรกว่า เพราะลดผลพวงจากแรงสะเทือน

4. สิ่งแวดล้อมรวมทั้งปัจจัยภายนอก
สิ่งแวดล้อม ได้แก่ การกัดเซาะของน้ำ หรือการเกิดแผ่นดินไหว เป็นสาเหตุที่ต้องใคร่ครวญในการดีไซน์และก็เลือกฐานรากลึก

✨📌🌏ข้อดีและก็ข้อจำกัดของโครงสร้างรองรับลึกจำพวกต่างๆ

จุดเด่นของโครงสร้างรองรับลึก
-รองรับน้ำหนักได้มาก
-ลดปัญหาเรื่องการทรุดตัวของโครงสร้าง
-ใช้งานได้ในสภาพดินหลายชนิด
-เพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้างในพื้นที่เสี่ยง

ข้อจำกัดของฐานรากลึก
-วิธีการติดตั้งสลับซับซ้อน
-ใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง
-อยากได้การสำรวจรวมทั้งดีไซน์ที่แม่นยำ

📌🌏👉ตัวอย่างการใช้แรงงานฐานรากลึกในโครงงานจริง

อาคารสูงในเขตเมือง:
อาคารสูงในเมืองใหญ่อยากโครงสร้างรองรับลึกเพื่อรองรับน้ำหนักและก็ลดผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน โครงสร้างรองรับแบบเสาเข็มเจาะก็เลยเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม
สะพานผ่านแม่น้ำ:
สะพานต้องการโครงสร้างรองรับลึกที่สามารถรองรับแรงกดดันจากน้ำและก็การสั่นสั่นสะเทือน ฐานเข็มเจาะขนาดใหญ่ก็เลยถูกเลือกใช้
โครงสร้างในทะเล:
โครงการก่อสร้างในทะเล ตัวอย่างเช่น แท่นขุดเจาะน้ำมัน ใช้โครงสร้างรองรับแบบพิเศษที่ดีไซน์มาเพื่อยับยั้งแรงจากคลื่นรวมทั้งกระแสน้ำ

🥇🥇✨ผลสรุป

โครงสร้างรองรับลึก มีหลากหลายประเภทซึ่งสามารถประยุกต์งานให้เหมาะสมกับลักษณะของแผนการก่อสร้างแล้วก็ภาวะดินในพื้นที่ การเลือกโครงสร้างรองรับที่สมควรไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง แม้กระนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในระยะยาว การพิเคราะห์เหตุต่างๆยกตัวอย่างเช่น สภาพดิน น้ำหนักของส่วนประกอบ แล้วก็ข้อกำหนดทางด้านกายภาพ ก็เลยเป็นขั้นตอนสำคัญในการออกแบบรากฐานลึก

โครงสร้างรองรับลึกที่เลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้ส่วนประกอบมีความแข็งแรง ทน และก็สามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการในพื้นที่ดินอ่อน พื้นที่น้ำท่วม หรือแม้กระทั้งแผนการในสมุทร รากฐานลึกจะยังคงเป็นหัวใจหลักของงานวิศวกรรมในทุกช่วง
Tags : ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม field density test