​​​​​​​ม.ราชภัฏรักษาความเป็นมหาวิทยาลัยชั้น 1 ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ&&

[Tawanida]

ราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (อังกฤษ: Suan Sunandha Rajabhat University; คำย่อ: มรภ.สส. – SSRU) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ7 ตั้งอยู่ในพื้นที่วังสวนสุนันทา อันเคยเป็นเขตพระราชฐานของราชสำนักดุสิตในรัชกาลที่ 5 มาก่อน เด็กนักเรียนและก็นิสิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาทุกคนจะใช้คำแทนตนเองว่า "ลูกพระนาง" ซึ่งพระนางในที่นี้หมายถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้กระนั้นพระนางไม่มีส่วนรู้เหตุการณ์สำหรับการตั้งขึ้นและไม่ได้รู้จักมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาแต่อย่างใด

มหาวิทยาลัยที่นี้มีรากฐานมาจากการตั้ง "โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย" ช่วงวันที่ 17 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2480 เปิดสอน ประกาศนียบัตรประโยคอาจารย์ประถม (เปรียญป.) ถัดมาจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็น "วิทยาลัยครูสวนสุนันทา" ในปี พุทธศักราช 2518 ตามพ.ร.บ.วิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 เปิดสอนถึงระดับปริญญาตรี หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ม.ราชภัฏ

วันที่ 14 ก.พ. พุทธศักราช 2535 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูเขาไม่พลอดุลยเดชมหาราช บรมท้องนาถบพิตรทรงพระได้โปรดกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถานศึกษาในสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งได้พระราชทานยี่ห้อพระราชลัญจกรประจำพระองค์ให้เป็นยี่ห้อสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏ ทำให้วิทยาลัยครูสวนสุนันทามีชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา" อัตโนมัติ แต่ว่ายังไม่เป็นทางการ เนื่องจากว่ายังไม่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏในราชกิจจานุเบกษา และก็เมื่อได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏในราชกิจจานุเบกษา ช่วงวันที่ 24 ม.ค. พุทธศักราช 2538 วิทยาลัยครูสวนสุนันทาก็เลยมีสถานะเป็น "สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา" อย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 15 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ยังผลให้สถาบันราชภัฏสวนสุนันทายกฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ประวัติความเป็นมามหาวิทยาลัย

สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์  �������ราชภัฏ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ได้ทรงความคิดว่าสถานที่ในพระราชวังชั้นในแออัด ไม่เหมาะสมจะเป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ก็เลยโปรดให้สร้างพระตำหนักและก็ตึกในบริเวณสวนสุนันทาขึ้นอีกหลายข้างหลัง แล้วโปรดให้เป็นที่ประทับของพระมเหสี เจ้าจอมมารดา พระสนมแล้วก็ลูกสาว ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปริมาณ 32 พระราชวัง แล้วก็ตึกที่พักของบรรดาข้าราชบริพาร โดยมีสมเด็จพระวิมารดรคุณ ท่านเจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีที่นาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา ได้เสด็จมาประทับในวังสายสุทธานพดล (ตึก 27) ตั้งแต่ พุทธศักราช 2467 ถึง พ.ศ. 2472 (สวรรคตในตำหนักที่ประทับสวนสุนันทา) เพราะในยุคนั้นบรรดาเจ้าขุนมูลนาย เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีบรรดาศักดิ์นิยมนำลูกสาว และหลานของตัวเองมาถวายตัวต่อสมเด็จพระวิคุณแม่เธอฯ เยอะมากๆ สมเด็จพระวิมารดรคุณฯ ก็เลยทรงให้สร้าง "โรงเรียนนิภาคาร" ขึ้นข้างในสวนสุนันทา สอนตามหลักสูตรการเรียนรู้ในสมัยนั้น และก็อบรมจริยา มารยาท การฝีมือ ให้เป็นกุลสตรี

มหาลัยราชภัฏ พอถึงปี พุทธศักราช 2475 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ ในสวนสุนันทาหวั่นกลัวภัยจากการเมือง จึงได้ทะยอยกันออกไปจากสวนสุนันทาจนกระทั่งหมดไป บางพระองค์ได้เสด็จออกไปอยู่หัวเมืองแล้วก็หลายท่านเสด็จหลบภัยการบ้านการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ โรงเรียนนิภาคารจึงเลิกปฏิบัติงานไปโดยปริยาย นับจากนั้นมาสวนสุนันทาที่เคยงดงามก็ถูกทอดทิ้ง ขาดการดูแลเอาใจใส่ ตำหนักต่างๆหมดสภาพอย่างมากมาย พื้นที่ด้านในรกร้างว่างเปล่า ถัดมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ภาควิชาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีความคิดเห็นว่าสวนสุนันทาถูกทอดทิ้งรกร้างอยู่ไม่ได้ทำประโยชน์ จึงเห็นสมควรให้นายกฯได้ใช้ประโยชน์ เป็นที่อยู่ที่อาศัยของรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้กระนั้นสภาผู้แทนราษฎรขอเพียงพื้นที่ภายนอกกำแพงติดถนนหนทางสามเสนสร้างเป็นบ้านพักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น คณะรัฐมนตรีก็เลยลงความเห็นเห็นควรว่า ควรที่จะใช้สถานที่นี้ให้มีประโยชน์แก่การเรียนรู้และมอบให้กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการในตอนนี้) ดำเนินงานตั้งขึ้นให้เป็นโรงเรียนของชาติ แล้วก็สถานที่เรียนรู้นี้ให้ชื่อโดยอาจชื่อเดิมของสถานที่เพื่อเป็นที่ระลึกนึกถึงโดยเรียกว่า "สถานที่เรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย" เริ่มเปิดการศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ดังคำขวัญมหาวิทยาลัยที่ว่า จากพระราชอุทยานสู่สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเอตทัคคะที่มีอัตลักษณ์
�������ม.ราชภัฏ